เป็นอีกหนึ่งวันที่ทำเอาน้ำตาไหลทุกครอบครัว ซึ่งเป็นน้ำตาแห่งความภาคภูมิใจ วันนั้นคือวันที่เราประสบความสำเร็จการศึกษา ทุกคนต่างต้องการเข้ามาร่วมแสดงความดีใจ เก็บภาพความประทับใจ บัณฑิตเองก็ควรแต่งตัวให้เหมาะสม สวยตลอดทั้งวันเช่นเดียวกัน

การแต่งหน้ารับปริญญาจึงได้เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นและน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะ
  1. เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพิธีการและสถานที่ ในที่นี่้หมายถึงการแต่งหน้าในอยู่ภายใต้กฎ ระเบียนที่ถูกต้อง
  2. เพื่อที่จะได้เก็บภาพประทับใจไว้ในความทรงจำทั้งกับบุคคลภายในครอบครัว บุคคลที่เคารพ(อาจารย์ รุ่นพี่) และเพื่อน
  3. ปกปิดจุดด่อย สร้างความโดดเด่นของโครงสร้างใบหน้าขึ้นมาให้กลายเป็นที่สนใจของผู้คนทั่วไป

          แต่ใช้ว่าการแต่งหน้ารับปริญญาจะออกมาดูดีทุกคนเสมอไป เพราะตัวอย่างรุ่นก่อนๆ ก็มีให้เห็น นั้นเป็นเพราะว่าเลือกช่างแต่งหน้าสมัครเล่น ดังนั้นสิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้คือ การวิเคราะห์ช่างแต่งหน้าที่เป็นมืออาชีพจริงๆ โดยพิจารณาจาก
  • ประวัติการแต่งหน้า
  • อายุงาน
  • ผลงานที่สร้างความประทับใจ (อาจตรวจสอบจากรูปภาพบัณฑิตในหน้าเว็บไซต์ หรือหน้าแฟนเพจก็ได้)
  • เครื่องสำอางค์ที่ใช้
 
          คุณเคยสังเกตุหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดเพื่อนของเราซึ่งเมื่อก่อนนี้สีผิวแลดูเข้ม คล้ำ เสีย กลับมีสุขภาพผิวที่สวยงาม ขาว กระจ่าง เป็นที่สะดุดตาชวนมองของผู้คนที่อยู่รอบข้าง นั้นเป็นเพราะการเลือกใช้เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณสมบัติเร่งความขาว โดยไม่คำนึงถึงพรรณธุกรรมเลย กล่าวคือการใช้สารกลูต้าไธโอนเป็นตัวยับยั้ง และเพิ่มการปรับเม็ดสีผิวให้จางลง ผิวจึงขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

          ซึ่งเมื่อร่างกายของคนเราที่สามารถสังเคราะห์สารกลูต้าไธโอนขึ้นมาเพื่อดัดจับสิ่งแปลกปลอม หรือสารผิวที่เข้าสู่ร่างกาย ขาดกลูต้าไธโอนไปแล้วจะทำให้สุขภาพร่างกายขาดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับหากสารกลูต้าไธโอนในร่างกายลดลงอาจทำให้ตับวายเสียชีวิตได้ในเวลาต่อมา ดังนั้น จึงจำเป็นต้องได้รับการใช้กลูต้าแบบฉีดฉีดเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่ที่ดีต่อความต้องการของร่างกาย หรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เอดส์ พาร์กิมสัน ้วนแต่ต้องใช้กลูต้าแบบฉีด เพื่อบำบัด และเบาเทาอาการป่วยด้วยกันทั้งนั้น

หน้าที่ของกลูต้าไธโอนคือ
  • กำจัดสารพิษที่เข้าสู่ร่างกายชนิดที่ไม่ละลายน้ำเช่น โลหะหนัก ยาฆ่าแมลง เป็นต้น
  • ช่วยป้องกันตับที่อาจถูกทำลายจากพิษแอลกอฮอล์ที่อยู่ภายในเครื่องดื่ม
  • สารพิษที่ร่างกายได้สูดดมควันบุหรี่เข้าไป
  • เป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระด้วยปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
  • ป้องกันการเสื่อมสภาพเร็วของอวัยวะ
  • เพิ่มภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย ให้ตรวจจับสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA
  • สังเคราะห์โปรตีน ช่วยให้เม็ดเลือดแดงมีความแข็งแรง
  • ช่วยทำให้สารอาหารซึมผ่านเข้าสู่เซล์ได้เร็วและดีขึ้น
  • ปกป้องไม่ให้ DNA ถูกทำลาย
 
คุณประโยชน์สำหรับการเลือกใช้กลูต้าแบบฉีด อันเป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับผู้ใช้คือ
  • ปรับหรือเร่งความขาวได้อย่างชัดเจน
  • สามารถใช้ได้กับทุกสภาพสีผิว ไม่ว่าจะเป็นสีผิวเข้มมากน้อยเพียงใด แต่ต้องรู้จักใช้กลูต้าแบบฉีด เนื่องจากมีสารกลูต้าที่เข้มข้นซึ่งถูกบรรจุไว้ในปริมาณที่แตกต่างกัน
  • ช่วยลบเรือนริ้วรอยจุกด่างดำ และรอยเหี่ยวย่น
  • เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้ชลอความแก่ชรา
  • เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่เข็มแรกที่ใช้
  • เจ็บตัวน้อยที่สุด แบบไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ
  • หลังการใช้กลูต้าแบบฉีดไม่ต้องนอนพักหรือรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรือทางคลินิค

แต่กลูต้าแบบฉีดเองก็มีผลเสียต่อร่างกายของผู้ใช้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน เช่น
  • เป็นสารที่ส่งผลต่อระบบสั่งการของสมองและอวัยวะภายในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้การทำงานของร่างกายผิดปกติเช่น ตับหรือใตวายเฉียบพลัน
  • ราคาแพง
  • อาจหาซื้อของแท้ได้ยาก เนื่องจากเป็นสารที่ได้รับการตอบรักเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีสารแปลกปลอมต่างๆมาวางจำหน่างให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
  • มีความเสี่ยงต่อร่างกายผู้ใช้ จำเป็นต้องได้รับการฉีดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • หากใช้กลูต้าแบบฉีดต่อเนื่องกัน เป็นเวลานาน อาจทำให้มีอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
  • เป็นสารที่ไม่ส่งผลลัพธ์ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากหมดฤทธ์ยาแล้วจำเป็นต้องได้รับการฉีดต่อเนื่อง จึงจะทำให้ผิวขาว ใส อยู่ตลอดเวลา



 
               เรื่องความเสริมความงามที่คู่กับสาวๆ ที่ยาวนาน นับว่ามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากในยุคนี้ บางก็มีการเสริมนั้น เติมนี่ ลดนั้น เพิ่มนี่ ตามความนิยมตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปและมีการก้าวหน้าไปไกลมาก ถ้าจะพูดถึงเรื่องการเสริมเติมแต่งก็คงนึกถึง การเสริมจมูกเป็นอย่างแรกแน่นอน ซึ่งในปัจจุบันมีการให้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในเรื่องความสวยความงาม อย่างการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ซึ่งแบบเป็น 2 ประเภทดังนี้

               1. ซิลิโคนสำเร็จรูป เป็นซิลิโคนที่พร้อมจะใส่พร้อมใช้จากโรงงาน ก่อนทำการเสริมจมูกให้คนไข้ด้วยซิลิโคนสำเร็จรูป แพทย์อาจปรับแต่งรูปทรงของซิลิโคนอีกเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับโครงจมูกของคนไข้แต่ละราย สำหรับข้อดีของซิลิโคนประเภทนี้คือ ได้รูปทรงที่แน่นอน มีโอกาสเอียงน้อย 

               2. ซิลิโคนเหลาเอง โดยการนำซิลิโคนแผ่นใหญ่มาเหลาให้เหมาะกับรูปจมูก การเหลาซิลิโคนเองนั้นมีข้อดีคือ สามารถปรับให้ได้รูปทรงที่เหมาะสมกับโครงจมูกของผู้เสริมจมูกแต่ละรายได้ สามารถตกแต่งความโด่งมากน้อยของจมูกได้
 
1.  การใช้เครื่องมือดูดไขมันจากภายนอก    
        การใช้เครื่องมือสลายไขมันจากภายนอก เช่น เครื่อง RF (Radio Frequency) ใช้ความถี่จากคลื่นวิทยุไปทำลายเซลล์ไขมัน หรืออัลตราซาวนด์ คลื่นความถี่สูง โดยไม่ต้องผ่าตัด ข้อเสียคือ ต้องทำหลายครั้ง เมื่อยิงเข้าไปแล้ว ไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าจะยุบเท่าไหร่ ต้องทำหลายที และค่าใช้จ่ายจะเปลืองมาก
2.  การผ่าตัด ใช้เครื่องมือดูดไขมันจากภายใน
        การผ่าตัดดูดไขมันนั้น สามารถดูดไขมันได้ในปริมาณมาก โดยใช้เครื่องมือสลายไขมันจากภายใน เช่น เลเซอร์ เข้าไปทำลายผนังเซลล์ไขมัน หลังจากที่ผนังเซลล์แตก ไขมันจะออกมานอกเซลล์ และถูกร่างกายกำจัดออกทางระบบน้ำเหลือง ซึ่งถือเป็นวิธีที่นิยมที่สุด แต่ราคาอาจสูงมากกว่าวิธีอื่น
3.  Carboxy
         Carboxy เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันดั้งเดิม เป็นการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์เข้าไป จะทำให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณแถวนั้นมากขึ้น ทำให้มีการสลายของผนังเซลล์เช่นกัน ฤทธิ์ของคาร์บอนไดออกไซค์จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางสภาพเซลล์  
 
           สำหรับคนรักความสวยความงาม เมื่ออายุเริ่มมากขึ้นก็มักมีปัญหาให้วิตกกังวลไปต่างๆ นาๆ ในขณะที่นวัตกรรมความงามก็มีการพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะด้านการชะลอวัย อย่างการร้อยไหมยกกระชับใบหน้า ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน   
           การร้อยไหมยกกระชับเกิดขึ้นครั้งแรกโดยศัลยแพทย์ทางด้านศัลยกรรมตกแต่งเมื่อ 5-10 ปี ที่ผ่านมา แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ซึ่งวิธีแรก ๆ คือ เทคนิคการร้อยไหมแบบใช้ตัวเกี่ยวผิว (Anchoring Thread) ต่อมาได้มีการพัฒนาปรับเปลี่ยนตัวเส้นไหมเป็นแง่งจะได้ไม่ต้องเย็บ จากนั้นได้มีการพัฒนามาเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นไหมชนิดโคน   
            แต่ปัจจุบันเรามีวิธีการร้อยไหมเทคนิคใหม่เข้ามาในประเทศไทยเรียกว่า “การใช้ไหมลอย” (Floating Thread) โดยการใช้ไหมอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นไหมธรรมดาไม่มีแง่ง ไม่มีการเกี่ยว ไม่มีปม ไม่มีโคน สามารถละลายได้และมีขนาดเส้นเล็กมาก ต่างจากประเภทแรก และเป็นที่นิยมมาก เพราะทำง่าย คนไข้ไม่เจ็บตัวไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลดี และแทบจะไม่มีผลข้างเคียงเลย      
            เทคนิคการใช้ไหมลอย (Floating Thread) มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับเทคนิคอื่น ๆ โดยเทคนิคนี้มีการทด ลองในสัตว์แล้วว่าเวลาวางไหมแบบนี้และมีการตัดชิ้นเนื้อมาดูว่ามีการหดตัวและยกกระชับจริงหรือไม่ ปรากฏว่าทำได้จริง แต่ต้องวางถูกต้องเท่านั้น เนื่องจากมันไม่ได้เกี่ยวกับผิว แรงยกจึงไม่มาก ทำให้มีการวางไหมจำนวนมากเป็นเครือข่าย เพราะแต่ละเส้นจะมีแรงยึดเหนี่ยวซึ่งกันและกัน เมื่อวางเรียงต่อกันเป็นจำนวนมากในรูปแบบที่ถูกต้อง จึงจะทำให้เกิดการยกขึ้น       
             การร้อยไหมยกกระชับแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 39-50 ปี และผู้ที่มีปัญหาการบกพร่องของผิวโดยที่ไม่มีเนื้อยุบตัวมากเกินไป สำหรับผู้ที่มีอายุน้อยยังไม่พบการหย่อนคล้อยจะได้ผลในแง่ของการปรับรูปหน้ามากกว่า เทคนิคการใช้ไหมลอย จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการรักษายกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด เนื่องจากการผ่าตัดมีข้อจำกัดมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุ การใช้ยาสลบ รวมถึงระยะเวลาในการพักฟื้นที่ยาวนาน
 
ปัญหาบนใบหน้าที่เกิดจากริ้วรอยการกดสิว จะหมดไปหากคุณรู้จัดวิธีการรักษาอย่างถูกวิธี หรือดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี เช่น

  • ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน เช่นไขในจากสัตว์
  • ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน เช่น เค้ก ซ็อกโกแลต
  • อาหารที่มีส่วนผสมของกะทิ เช่นแกงเขียวหวาน น้ำยากะทิ
  • การใช้ครีมสำหรับแต้มสิว ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาหรือร้านเครื่องสำอางค์ทั่วไป และจำเป็นมากสำหรับทุกท่านที่ควรอ่านคำแนะนำต่างๆ พร้อมทั้งส่วนผสมซึ่งอาจมีสารที่ก่อให้เกิดอาหารแพ้หรือระคายเคืองกัยสภาพผิวของท่านได้
  • การฉีดสิวจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • การรับประทานในรูปแบบยา ซึ่งยาประเภทนี้จะเกิดผลข้างเกียงกับสภาพผิวโดยอาจทำให้ผิวแห้ง
  • การใช้เลเซอร์ ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีการแพทย์ที่ก้าวหน้า เพื่อลดปัญหาอาการแพ้ยาของและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

โดยขั้นตอนการรักษาสิวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรือจุดด่างดำไม่ควรแกะหรือบีบสิวโดยเด็ดขาด